การวัดความคุ้มค่าของ CPU หรือชิปประมวลผลนั้นสามารถมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจ เช่น การใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแบบเป็นต้น ดังนั้นด้านล่างนี้เป็นอันดับ 5 ของ CPU ที่มีความคุ้มค่าสูงที่สุดในปัจจุบัน โดยพิจารณาจากประสิทธิภาพ ราคา และความต้องการของผู้ใช้งาน
โดย CPU ในอันดับนี้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงเช่นการเล่นเกมส์ การสร้างและแก้ไขไฟล์วิดีโอ การทำงานที่ต้องการความแม่นยำและเร็ว เป็นต้น
5 อันดับ CPU ที่คุ้มค่าที่สุดในโลก
AMD Ryzen 9 5950X
คุณสมบัติของ AMD Ryzen 9 5950X ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงเช่นการสร้างเนื้อหาวิดีโอ การเล่นเกมส์ และการทำงานที่ต้องการความแม่นยำและเร็วด้วยจำนวนคอร์และเทรดที่มากในราคาที่สมเหตุสมผล
ข้อมูลสเปคของ AMD Ryzen 9 5950X:
ชื่อรหัส: AMD Ryzen 9 5950X
ประมวลผล (CPU): AMD Zen 3 Architecture
จำนวนคอร์: 16 cores
จำนวนเทรด: 32 threads
ความเร็วฐาน: 3.4 GHz
ความเร็วสูงสุด: 4.9 GHz
แคช L3: 64MB
แคช L2: 8MB
แพลตฟอร์ม: AM4
การ์ดกราฟิกในชิป: N/A
TDP: 105W
การสนับสนุนแรม: DDR4
รุ่นที่รองรับแรมสูงสุด: DDR4-3200
การสนับสนุน PCIe 4.0
การสนับสนุน NVMe
ขนาดของชิป: 7nm
ประเภทการเชื่อมต่อ: Socket AM4
ราคาประมาณ: 19,000 บาท
ข้อดีของ AMD Ryzen 9 5950X คือมีความเร็วในการประมวลผลที่สูงกว่าโปรเซสเซอร์อื่นๆ มีจำนวนคอร์ทั้งหมด 16 คอร์ รวมถึงการสนับสนุน PCIe 4.0 ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลได้มากขึ้น และยังมีการบริหารจัดการพลังงานอย่างดีเพื่อลดการใช้พลังงานได้อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ราคาของ AMD Ryzen 9 5950X ก็ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีปัญหาในการหาวางจำหน่ายในบางที่ แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากคุณกำลังมองหาเป็นโปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความสามารถในการทำงานหลากหลาย คุณอาจจะต้องพิจารณา AMD Ryzen 9 5950X อย่างจริงจัง
Intel Core i9-11900K
คุณสมบัติของ Intel Core i9-11900K ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงเช่นการเล่นเกมส์ การสร้างเนื้อหาวิดีโอ และการทำงานที่ต้องการความแม่นยำและเร็ว ด้วยความเร็วสูงสุดของ Single Core Turbo Boost 3.0 และความเร็วฐาน 3.5 GHz ในราคาที่สมเหตุสมผล
นี่คือข้อมูลสเปคของ Intel Core i9-11900K:
ชื่อรหัส: Intel Core i9-11900K
ประมวลผล (CPU): Intel Rocket Lake-S Architecture
จำนวนคอร์: 8 cores
จำนวนเทรด: 16 threads
ความเร็วฐาน: 3.5 GHz
ความเร็วสูงสุด: 5.3 GHz (Single Core Turbo Boost 3.0)
แคช L3: 16MB
แคช L2: 4MB
แพลตฟอร์ม: LGA 1200
การ์ดกราฟิกในชิป: Intel UHD Graphics 750
TDP: 125W
การสนับสนุนแรม: DDR4
รุ่นที่รองรับแรมสูงสุด: DDR4-3200
การสนับสนุน PCIe 4.0
การสนับสนุน NVMe
ขนาดของชิป: 14nm++
ประเภทการเชื่อมต่อ: LGA 1200
ราคาประมาณ: 18,000 บาท
สำหรับ Intel Core i9-11900K นั้น เป็นหนึ่งในชิปประมวลผลที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพคอมพิวเตอร์ระดับสูง และความเร็วในการทำงานที่สูง โดยสามารถใช้งานได้สมบูรณ์กับการเล่นเกม การตัดต่อวิดีโอ และการใช้งานโปรแกรมต่างๆ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการใช้งานแบบ multi-tasking ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากคุณต้องการเลือกซื้อชิปประมวลผลที่มีความเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ ก็อาจจะควรพิจารณา Intel Core i9-11900K นี้ด้วยครับ.
AMD Ryzen 7 5800X
AMD Ryzen 7 5800X เป็นหนึ่งในซีพียูตัวแรงสุดของ AMD ในปัจจุบัน ด้วยหมวดหมู่ Ryzen 5000 Series ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Zen 3 ที่ทันสมัยและประสิทธิภาพที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ รุ่นนี้มีความเร็วของการประมวลผลแบบ 8-core, 16-thread ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้รวดเร็วและตอบสนองความต้องการได้อย่างดี
สเปคของ AMD Ryzen 7 5800X
ชื่อรหัส: Vermeer
เทคโนโลยีการผลิต: 7nm FinFET
หมวดหมู่: Ryzen 5000 Series
เทคโนโลยีการประมวลผล: Zen 3
จำนวนคอร์: 8-core, 16-thread
ความเร็วในการประมวลผล: 3.8GHz (Base Clock), 4.7GHz (Boost Clock)
แพลตฟอร์ม: AM4
การ์ดกราฟิก: ไม่มี
แรม: DDR4
TDP: 105W
รีวิว AMD Ryzen 7 5800X
AMD Ryzen 7 5800X มีความเร็วและประสิทธิภาพที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้ามากขึ้น ด้วยการออกแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Zen 3 และการผลิตด้วยเทคโนโลยี 7nm FinFET ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ CPU นี้ได้อย่างมาก
การประมวลผลของ Ryzen 7 5800X มีความเร็วและประสิทธิภาพที่สูง โดยมีค่า TDP ที่ 105W ซึ่งสามารถใช้งานได้ด้วยความเร็วที่สูงและความเป็นมืออาชีพของการประมวลผล ผู้ใช้สามารถทำงานหนักได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือการทำงานที่ใช้ความสามารถของ CPU อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ Ryzen 7 5800X ยังมีการออกแบบใหม่ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มความเร็วในการประมวลผล ทำให้มีการใช้ไฟฟ้าน้อยลงและประหยัดพลังงานมากขึ้น
สำหรับการใช้งานเล่นเกม ก็สามารถรองรับการเล่นเกมในระดับสูงได้อย่างลื่นไหล และให้ประสิทธิภาพที่ดีกับการเล่นเกมที่มีกราฟิกสูง
ในส่วนของราคา AMD Ryzen 7 5800X จะเป็นหนึ่งในรุ่นที่มีราคาที่สูงกว่ารุ่นอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน แต่ก็คุ้มค่ากับความสามารถและประสิทธิภาพที่มีอยู่ใน CPU นี้
สรุปข้อดี
ประสิทธิภาพที่ดีและความเร็วสูงในการประมวลผล
เทคโนโลยี Zen 3 ที่ทันสมัย
การใช้พลังงานที่น้อยและประหยัดพลังงานมากขึ้น
สามารถรองรับการเล่นเกมในระดับสูงได้อย่างลื่นไหล
Intel Core i7-11700K
Intel Core i7-11700K เป็นชิปประมวลผลระดับสูงที่มีความสามารถและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม ด้วยการใช้เทคโนโลยี Intel Core ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดถึง 3.6 GHz และสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 4.9 GHz ด้วย Turbo Boost Technology 2.0
ข้อมูลเต็มของ Intel Core i7-11700K มีดังนี้:
ชื่อผลิตภัณฑ์: Intel Core i7-11700K
จำนวนคอร์: 8
จำนวนเทรด: 16
ความถี่ฐาน: 3.6 GHz
ความถี่สูงสุด: 5.0 GHz
แบบชิพเซ็ต: Intel 500 ชิพเซ็ต
แบบ Socket: LGA 1200
การ์ดกราฟิกภายใน: Intel UHD Graphics 750
การ์ดกราฟิกแยก: ไม่มี
การ์ดเสียง: Intel High Definition Audio
การรองรับเทคโนโลยี: Intel Hyper-Threading, Intel Turbo Boost Max 3.0, Intel Optane Memory Support, Intel Virtualization Technology (VT-x), Intel Virtualization Technology for Directed I/O (VT-d), Intel VT-x with Extended Page Tables (EPT)
การ์ดเครือข่าย: Intel Wi-Fi 6E AX210, Intel 2.5 Gigabit Ethernet
การรองรับแรมสูงสุด: DDR4-3200
การรองรับความจุแรมสูงสุด: 128GB
การ์ดจอที่รองรับ: PCIe 4.0 x16
จำนวนช่องเก็บข้อมูล: 2 x M.2, 6 x SATA 6Gb/s
TDP: 125W
การประมวลผลของ Intel Core i7-11700K ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี Intel แบบ 14nm ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานในการทำงานของคอมพิวเตอร์ ให้ได้ความเร็วและประสิทธิภาพที่สูง นอกจากนี้ยังมีการรองรับการใช้งานระบบเมมโมรี่ DDR4 ที่ความเร็วสูงสุดถึง 3200 MHz
เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ความเร็วในการประมวลผลของ Intel Core i7-11700K นั้นได้ถูกเพิ่มขึ้นมากถึง 14% และความเร็วในการเชื่อมต่อกับแรมนั้นได้ถูกเพิ่มขึ้น 20% นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับ SSD แบบ PCIe 4.0 ที่สามารถรองรับความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลได้สูงสุดถึง 7.88 GB/s
รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายที่ Intel Core i7-11700K มีให้เลือกใช้งาน เช่น Intel Optane Memory Support ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานของระบบ การรองรับ Wi-Fi 6 ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 2.4 Gbps
AMD Ryzen 5 5600X
AMD Ryzen 5 5600X เป็นซีพียูในตระกูล Ryzen 5000 Series ของ AMD ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Zen 3 Architecture และผลิตด้วยกระบวนการ 7nm.
ข้อมูลเต็มของซีพียูนี้ จะเป็นดังนี้:
ชื่อผลิตภัณฑ์: AMD Ryzen 5 5600X
จำนวนคอร์: 6
จำนวนเทรด: 12
ความถี่ฐาน: 3.7 GHz
ความถี่สูงสุด: 4.6 GHz
แบบ Socket: AM4
แบบชิพเซ็ต: AMD B550, X570
การ์ดกราฟิกภายใน: AMD Radeon Graphics (integrated)
การ์ดกราฟิกแยก: ไม่มี
การ์ดเสียง: Realtek ALC1220
การรองรับเทคโนโลยี: AMD Precision Boost 2, AMD StoreMI Technology, AMD Ryzen Master Utility, AMD Ryzen VR-Ready Premium, AMD Ryzen Ready Socket AM4 Platform
การ์ดเครือข่าย: Gigabit Ethernet
การรองรับแรมสูงสุด: DDR4-3200
การรองรับความจุแรมสูงสุด: 128GB
การ์ดจอที่รองรับ: PCIe 4.0 x16
จำนวนช่องเก็บข้อมูล: 2 x M.2, 6 x SATA 6Gb/s
TDP: 65W
AMD Ryzen 5 5600X มีคุณสมบัติการทำงานที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการใช้งานต่างๆ อาทิเช่น การเล่นเกม การทำงานทางด้านกราฟิก และการทำงานทั่วไป นอกจากนี้ยังมีการรองรับเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า ดังนั้น AMD Ryzen 5 5600X เป็นซีพียูที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาซีพียูที่มีประสิทธิภาพสูง.
FAQ คำถามที่พบบ่อย
ทำไม CPU รุ่นเก่าบางรุ่นคุ้มค่ากว่ารุ่นใหม่
การวัดคุ้มค่าของ CPU ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรุ่นใหม่หรือเก่าเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของผู้ใช้งานด้วย รุ่นใหม่มักมีการอัพเกรดในเทคโนโลยีที่ดีขึ้น แต่มีราคาสูงกว่ารุ่นเก่าที่อยู่ในระดับเทียบเคียง ในบางกรณี การอัพเกรด CPU รุ่นเก่าสามารถทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน โดยไม่ต้องจ่ายเงินมากมายในการอัพเกรด CPU รุ่นใหม่ที่มีราคาสูงกว่ามากขึ้น
ดังนั้นควรพิจารณาตามความต้องการและงบประมาณของเราเองก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ CPU รุ่นใดๆ โดยไม่ควรดูแค่รุ่นหรือสเปกเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาด้วยปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น คุณภาพการผลิต การรองรับเทคโนโลยี ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ดและอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้งานร่วมกัน และปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น ราคาและการเสียเวลาในการรอคอมโบรถซื้อ CPU รุ่นใหม่
เล่นเกมใช้ CPU ตัวไหนดี
การเล่นเกมส์ส่วนใหญ่จะต้องการประสิทธิภาพของ CPU ที่สูง เพื่อให้เกมทำงานได้อย่างราบรื่นและมีความเร็วในการประมวลผล การเลือก CPU ที่เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมนั้นขึ้นอยู่กับงบประมาณของเรา แต่สามารถใช้งาน CPU ตัวใดก็ได้ที่มีประสิทธิภาพสูงเพียงพอเพื่อให้เกมส์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับ CPU ที่เหมาะสำหรับเล่นเกมส์ สามารถพิจารณาจากตัวรุ่นที่มีคุณสมบัติดังนี้:
Intel Core i5 11600K: เป็น CPU รุ่นล่าสุดของ Intel ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ดีในการเล่นเกมส์ มีความเร็วในการประมวลผลสูงถึง 4.9 GHz และมีความสามารถในการทำงานแบบ Multithreading ที่สูง สามารถเล่นเกมส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
AMD Ryzen 5 5600X: เป็น CPU จากค่าย AMD ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Zen 3 Architecture และมีคุณสมบัติที่ดีในการเล่นเกมส์ มีความเร็วในการประมวลผลสูงถึง 4.6 GHz และมีความสามารถในการทำงานแบบ Multithreading ที่สูง สามารถเล่นเกมส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Intel Core i7 11700K: เป็น CPU รุ่นล่าสุดของ Intel ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ดีในการเล่นเกมส์ มีความเร็วในการประมวลผลสูง ถึงแม้ว่า Intel Core i7 11700K จะมีราคาสูงกว่า CPU รุ่นอื่นๆ แต่มีประสิทธิภาพที่สูงและมีความสามารถในการทำงานแบบ Multithreading ที่สูง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความเร็วและประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์
อย่างไรก็ตาม การเลือก CPU ที่เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมส์ไม่ได้แค่เพียงแต่ความเร็วของ CPU เพียงอย่างเดียว ยังต้องพิจารณาความเข้ากันได้ของ CPU กับส่วนประกอบอื่นๆ ของระบบ เช่น การ์ดจอ แรม และเมนบอร์ด เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น การเลือก CPU ที่เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมส์ต้องพิจารณาความเหมาะสมกับส่วนประกอบอื่นๆ ในระบบด้วย
ตัดต่อวีดีโอ ใช้ CPU อะไรดี
การตัดต่อวีดีโอเป็นงานที่ต้องใช้ความสามารถในการประมวลผลและการทำงานแบบ Multithreading มาก เนื่องจากต้องดำเนินการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เช่น การทำหน้าที่ดูแลความคมชัดของวีดีโอ การเพิ่มเติมเอฟเฟ็กต์ การแก้ไขเสียงและอื่นๆ ดังนั้น CPU ที่เหมาะสมสำหรับการตัดต่อวีดีโอควรมีความสามารถในการประมวลผลแบบ Multithreading สูงพอควร และมีความเร็วในการทำงานสูงเพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว
ตัวอย่าง CPU ที่เหมาะสมสำหรับการตัดต่อวีดีโอได้แก่ AMD Ryzen 9 5950X หรือ Intel Core i9-11900K โดยเป็น CPU ที่มีความสามารถในการประมวลผลแบบ Multithreading สูงถึง 16 หรือ 32 threads ตามลำดับ และมีความเร็วในการทำงานสูงกว่า CPU รุ่นอื่นๆ ด้วย
เล่นเกม ใช้ CPU กี่คอร์
สำหรับการเล่นเกม จำนวนคอร์ของ CPU ไม่จำเป็นต้องมีมากเท่าไหร่ แต่ความเร็วของ CPU จะมีความสำคัญมากกว่า โดยส่วนใหญ่การเล่นเกมส์ในปัจจุบันยังไม่รองรับการใช้งาน Multithreading อย่างสูง ดังนั้น การเลือก CPU ที่มีความเร็วสูงในการทำงานเป็นสำคัญกว่าจำนวนคอร์
แต่ในบางเกมที่มีการใช้งาน Multithreading เช่นเกมที่ต้องการการสร้างสภาพแวดล้อมให้มีความสมจริง การมีจำนวนคอร์ที่มากกว่า 8 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นได้ เนื่องจากสามารถทำงานแบบ Multithreading ได้เต็มประสิทธิภาพ
ดังนั้น สำหรับการเล่นเกมส์ในปัจจุบัน ควรเลือก CPU ที่มีความเร็วสูงและมีความสามารถในการทำงานแบบ Single-threaded ได้ดีโดยเฉพาะ CPU รุ่นล่าสุดของ Intel และ AMD ที่มีความเร็วสูงกว่า 4.0 GHz หรือ 4.5 GHz ขึ้นไปจะเหมาะสมกับการเล่นเกมส์ในปัจจุบัน
i5 และ i7 แตกต่างกันอย่างไร
i5 และ i7 เป็นชื่อรุ่นของ CPU ของบริษัท Intel โดยมีการแตกต่างกันตามรุ่นและเทคโนโลยีที่ใช้
สำหรับ i5 จะเป็น CPU รุ่นที่เหมาะสำหรับงานใช้งานทั่วไปและเล่นเกมส์ มีจำนวนคอร์ตั้งแต่ 2-10 คอร์ และจำนวนเทรดที่ประมวลผลพร้อมกันต่อคอร์ไม่เกิน 2 เทรด ทำให้มีความเหมาะสมในการใช้งานแบบ Single-Thread ได้ดี ส่วนความเร็วในการประมวลผลจะอยู่ระหว่าง 2.9-4.6 GHz
สำหรับ i7 จะมีสเปคที่สูงกว่า i5 ดังนั้นมีความเหมาะสมกับงานที่ต้องการความสามารถในการประมวลผลมากขึ้น เช่น การตัดต่อวิดีโอหรือการทำงานกับโปรแกรมแบบ Multitasking มีจำนวนคอร์ตั้งแต่ 4-12 คอร์ และจำนวนเทรดที่ประมวลผลพร้อมกันต่อคอร์อยู่ระหว่าง 2-3 เทรด ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานแบบ Multithreading ได้ดี ส่วนความเร็วในการประมวลผลจะอยู่ระหว่าง 2.8-5.3 GHz
ดังนั้น การเลือกใช้งาน CPU รุ่นไหนเหมาะกับการใช้งานขึ้นอยู่กับการใช้งานแต่ละประเภท โดย i5 เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมส์ ส่วน i7 เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสามารถในการประมวลผลสูงและ Multitasking
Comments